Thursday, March 30, 2006

Accident!!!

อุบัติเหตุ... เป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึงและไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเรา แต่บางครั้งมันก็เกิดจากความไม่รู้ผสมโรงกับความประมาทได้ อันเป็นเรื่องราวที่จะเป็นอุทาหรณ์สอนใจผมไปตลอดนับจากนี้

ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน หลังจากที่ได้ลง Yoper 3.0 Beta (Blacksand) แล้ว ผมรู้สึกว่า อะไรต่างๆ ในเวอร์ชันนี้ยังไม่ค่อยพร้อม และเราเองก็ยังไม่ได้ลงโปรแกรมอะไรมากเท่าไหร่ (จริงๆ ก็เยอะเหมือนกันนะ ทั้งลง CUPS ใหม่, libthai, font ไทย, kdesdk, The Gimp, gimp-print, amaroK 1.4 beta2, และ libraries อื่นๆ อีกมากมาย compile เองกับมือเลย ยังกะ Gentoo แน่ะ) ก็เลยตัดสินใจทำการ format เพื่อที่จะหา Linux ที่มันพร้อม ๆ ในด้านต่างๆ ใช้แก้ขัดไปก่อน หันไปมองดูที่ distrowatch ก็เจอเข้ากับ ArkLinux 2006.1-rc1 อืม... ใช้ได้แฮะ ให้อะไรๆ มาใหม่ดี และใช้ rpm ในการจัดการ package (ยังไม่อยากย้ายค่ายไปซบ Debian :D) ก็จัดการดาวน์โหลดมาเผาลงแผ่นเสร็จลองบูตดู ก็ขึ้นเข้า installer ได้ไม่มีปัญหาอะไร เรียบร้อยก็ถอยก่อน คาดว่าคงจะใช้ได้ รอจนได้โอกาสดี อ่านข้อสอบจบไป 1 ชุด ก็ให้รางวัลตัวเองด้วยการลง ArkLinux 2006.1-rc1 ก็บูตแผ่นแล้วเข้ามาที่หน้าติดตั้งตามปกติ ซึ่งมีให้เลือกแบบ System install กับ Expert mode เราก็เลือก Expert mode ซึ่งมันก็เรียกโปรแกรม qtparted (ชอบใช้เวอร์ชัน cvs กันจังเลยวุ้ย มันน่าจะใช้ stable มากกว่า) ขึ้นมาสำหรับจัดการกับ partition เราก็จัดการ format partition ของ Yoper โดยเหลือ /home เอาไว้ ก็คาดว่าคงไม่เป็นไร ไม่ได้ backup อะไรเอาไว้เลยทั้งใน win หรือ Yoper พอเสร็จก็กด apply แล้วก็ออกจาก qtparted ปรากฏว่า ตัว installer เกิดข้อผิดพลาดแล้วก็บูตใหม่ ลอง 2-3 ทีก็เป็นอย่างเดิม ก็เลยคิดว่าอืม จัดพาร์ติชันแล้วคงไม่เป็นอะไร พอเข้ามาอีกทีก็กดที่ System install โดยไม่ได้อ่านให้ดีก่อน ผลก็คือ มันจัดการล้าง HDD ทั้งหมดเพื่อติดตั้ง ArkLinux!!! หมดกัน!!! ทั้งเพลง ทั้งรูป ทั้งวิดีโอ (สองอันนี้เสียใจสุด) และเอกสารต่างๆ สลายไปต่อหน้าต่อตา T-T

Danger!

ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือว่า หลังจากรอจนติดตั้งเสร็จ ก็ขอลองบูตหน่อยเหอะ ก็บูตได้จนเสร็จแต่ดันเข้า X ไม่ได้ เข้าๆ ออกๆ อยู่นั่นแหละเหมือนว่าตั้งค่าหน้าจอหรือการ์ดจอไม่สำเร็จ จะให้มานั่งแก้ก็ไม่เอาละ ตอนนั้นมึนแล้ว... ปิดเครื่องแล้วสูดหายใจลึกๆ ซับเหงื่อโง่ แล้วก็คุ้ยแผ่น recovery CD ออกมาเพื่อที่จะใช้ลง Windows ใหม่ (ดีนะที่แผ่นกู้ระบบมันไม่ต้องอาศัย recovery partition ไม่งั้นเครื่องนี้ได้เป็น pure Linux แน่)

ผลจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตาม...

つづく

Monday, March 27, 2006

สอบเสร็จแว้วว

วู้ฮู้...

ในที่สุดก็สอบเสร็จไปแล้ว ... วันเสาร์ตื่นขึ้นมาตอนตี 5 (จริงๆ คืนนั้นรู้สึกเหมือนนอนไม่หลับ) อาบน้ำ แปรงฟัน แล้วไปสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนที่จะจูบลา Boss ไปสอบ

สอบครึ่งแรกเสร็จ พักเที่ยง ลงไปหาข้าวกิน ปรากฏว่า วันเสาร์เป็นวันที่เงียบมาก บริเวณนั้นไม่มีร้านอาหารเปิดเลยซักร้านเดียว เดินไปหาของกินเกือบกิโลแน่ะ -_-' แล้วก็กลับมารอเข้าสอบภาคบ่าย สอบเสร็จประมาณ 4 โมงครึ่งข้อสอบทั้งหมด 250 ข้อ เช้า 125, บ่าย 125 ให้เวลาครึ่งละ 3 ชม.

เท่าที่ทำดูก็เห็นว่า เอาข้อสอบเก่าๆ มาออกเยอะพอสมควรเลยแฮะ ถ้าจะมาสอบ AMC ภาค MCQ คาดว่า หาหนังสือข้อสอบ AMCQ กับข้อสอบเก่าๆ ซัก 5-10 ปีมาอ่าน (แต่เฉลยอาจต้องหาที่มัน update หน่อย เพราะว่า line of management มันก็เปลี่ยนไปเยอะ เมื่อเทียบตอนนี้กับ 10 ปีก่อน -- สามารถหาข้อมูลทางการแพทย์ได้ตามอินเทอร์เน็ต ผมใช้ GP Notebook ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับ GP ของอังกฤษ พวกทฤษฎีและ line of management คล้ายๆ กับออสเตรเลีย) อาจจะไม่ต้องเข้า course เรียน MCQ ก็ได้ ถ้าสามารถหาข้อสอบเก่าๆ มาทำได้ (ผมได้ข้อสอบเก่ามาด้วยความเอื้อเฟื้อจากหมอโอ ที่ตอนนี้ทำงานเป็นหมออยู่ใน Melbourne แล้ว ขอบคุณครับ :D) หนังสือเพิ่มเติมก็ Harrison, Davidson, General Practice ของ John Murtagh, Textbook of Surgery ของ Tjundra

ทำๆ ไปก็รู้สึกว่าตัวเองทำได้มากกว่าคราวที่แล้ว ก็ได้แต่หวังว่า คราวนี้คงสามารถผ่านไปสมัครสอบ OSCE ได้ซะที

สอบเสร็จกลับบ้าน ไปกินข้าวกับ Boss แล้วหลับเป็นตาย เหนื่อยจังงงง....



済む

Friday, March 24, 2006

พรุ่งนี้สอบแล้ว!!!!

อ๊าาาาาาา.......

สอบ AMC ภาค MCQ พรุ่งนี้แล้ว ครั้งที่ 2 แล้ว อ๊าาาาก

อ่านข้อสอบไปได้แค่ 2-3 ปีเอง (ตอนสอบเอนท์อ่านตั้ง 10 ปีแน่ะ แต่ไม่ได้อ่านข้อสอบปีที่เอนท์ หุหุ)

พยายามเข้า... สู้ต่อไป (ปลอบใจตัวเอง) อ่านเยอะกว่าครั้งแรกตั้งเยอะแล้ว หวังว่าคงได้ผ่านไปสอบ OSCE ต่อนะ
สู้ต่อไปไอ้มดแดง

つづく...

Wednesday, March 22, 2006

My Favourite Podcasts

ตั้งแต่ซื้อ iPod มานอกจากจะใช้เก็บเพลง, วิดิโอ และข้อมูลแล้ว ก็ยังใช้เก็บ Podcasts เอาไว้ฟังอีก ที่ฟังส่วนใหญ่ก็เป็นแนว Medicine กะ เทคโน ส่วนใหญ่ก็ใช้ iTunes เข้า iTMS แล้วไปที่ section podcast แล้ว subscribe มันตรงนั้นแหละ แต่นอกจากนี้บน Linux ก็ใส่ URL เข้าไปใน Podcast playlist ของ amaroK ดูดมาฟังได้เหมือนกัน แต่ยังหาทางถ่ายโอนมันลง iPod ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นบักของ amaroK หรือตัว kernel ที่พอเมานท์ iPod แล้ว amaroK มัน crash ดับไปเฉยๆ ซะงั้น -_-' ที่โหลดมาฟังก็มี...

  • TWiT, This Week in Tech
    • มีคนมานั่งคุยกันให้ฟัง เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ภายในอาทิตย์ที่ผ่านมา เดี๋ยวนี้เรื่อง Apple เยอะมาก มีนาย John C. Dvorak คอลัมนิสต์จาก PC Magazine มานั่งอัดรายการด้วย
  • ABC News Medical minute
    • รายงานข่าวเกี่ยวกับสุขภาพและวิทยาการที่เกี่ยวข้อง หลายๆ อย่างก็เพิ่งรู้มาจากรายการนี้แหละ อืม...
  • Channel Frederator
    • รายการ Video Podcast ที่มี Animation จากหลายๆ ที่มาให้ดูกันฟรีๆ ล่าสุดออกมา 21 ตอนแล้ว ตอนละ 15 นาที
  • MacDD Radio
    • รายการ MacDD Radio จากคลื่น RadioOK 106.25 จัดโดยเว็บมาสเตอร์ของ MacDD.com กับ ipod2play.com เริ่มฟังมาตั้งแต่ซื้อ iPod มาใช้

ว่าแต่ blognone ไม่ลองทำ podcast บ้างรึ??

Wednesday, March 15, 2006

Yoper 3.0 BETA --BLACKSAND-- part1

ผมเป็นแฟน (Fan) ของ Yoper มานานแล้ว ตั้งแต่ไปเจอรีวิวใน Thailinuxcafe.com (ตอนนี้ปิดปรับปรุงเหลือแต่เว็บบอร์ด) ก็ลง 2.1.0-4 ที่เครื่องที่ใช้ๆ อยู่ แบ่งๆ กันกับ XP ตอนนั้นถูกใจเพราะเร็วมาก แต่ตอนนี้ดิสโทรไหนๆ ก็คงพอๆ กันมั้ง เรื่องฮาร์ดแวร์มันพัฒนาไปจนมองไม่ค่อยเห็นความแตกต่างระหว่างดิสโทรแล้ว

หลังจากลงไปแล้วประมาณปีเศษๆ เราก็ได้ทำการปรับแต่งต่างๆ นาๆ ทั้งหา software มาลงเองคอมไพล์เอง ทั้ง apt-get จนกระทั่ง Yoper ของเราที่ลงในเครื่องมันรวน -_-' แต่แล้ว Yoper ซึ่งมีข่าวว่าจะออกเวอร์ชันใหม่ (2.2) ก็ไม่ออกซักทีมีแต่ Beta แถม Andreas คนก่อตั้งก็ย้ายไปอยู่ Novell ทำโปรเจ็คต์ SUPER ทำให้ความหวังจะเห็น Yoper เวอร์ชันใหม่มันรำไรๆ เกือบจะย้ายดิสโทรอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม Yoper ก็ยังคงมี community ที่เข้มแข็ง และด้วยการนำของ TobiG ก็เข็น Yoper 3.0 Beta ออกมาให้ยลโฉมกันจนได้ แม้จะขาดคนทำงานก็ตาม (เฮ้อ เหนื่อย) คราวนี้ ด้วยความกลัวที่จะปิ๋วอีก เลยรีบโหลดมาลองเลยดีกว่า อยากใช้ software ใหม่ๆ มานานมากแล้ว ไม่ได้ใช้ซักที (ลองคอมไพล์เอง แล้วมันไม่ผ่านนี่หว่า T-T) คราวนี้มาแบบสะใจ ด้วย
  • kernel 2.6.15 (Yoper custom)
  • X.org 6.8.2
  • qt 3.3.5
  • KDE 3.5
  • FF/Thunderbird 1.5
  • Graphical installer (YIS)
...
คือมันก็ยังไม่ได้ใหม่ที่สุดหรอก เพราะว่า packager น้อยมาก เข็น package ออกมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าโอเคอะ ยังขาดพวก tools ต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Yoper อีกคือ yoperconf ไม่รู้จะทำต่อหรือเปล่า

ตอนจะลง ก็ดันมีปัญหากับ installer คือมีคนแจ้ง bug เอาไว้ตรึม แถม iso ตัวเต็ม (600 กว่าเม็ก) ก็ดันติดตั้งได้ไม่สมบูรณ์เพราะมีปัญหากับ postinstall script คุณ TobiG ก็เลยเข็น installer tester iso ออกมา 2-3 ตัว ตามโหลดกันสนุก สุดท้าย ได้ออกมาเป็นตัวที่แก้bug แล้วอยู่ที่ ftp://ftp.yoper.com/pub/yoper/devel/YOPER-2.91-BLACKSAND.iso ก็เอามาเผาแผ่นแล้วลงได้สำเร็จ (แต่ก็ยังมี Bug อยู่ดี)

ตอนติดตั้ง จะมีข้อความต้อนรับ และมีโปรแกรมติดตั้งแบบ text และแบบ Graphic (YIS) ให้เลือก ผมเลือกใช้ Graphic installer ซึ่งนอกจากเรื่องบักที่
  1. ถ้าหากเรามีพื้นที่ว่างที่ไม่ได้สร้างพาร์ติชันไว้แล้วมันจะเข้า YIS ไม่ได้ (แต่ใช้ text mode ได้) แนะนำให้ใช้ qtparted แบ่งพาร์ติชันก่อน โดย startx มันจะเข้า TWM แล้วพิมพ์ qtparted ที่เทอร์มินอล พอแบ่งเสร็จแล้วค่อยใช้ YIS
  2. bootloader ไม่ได้ใส่ Windows entry เอาไว้ และมีแต่ lilo ให้เลือกพอลงเสร็จก็ไปแก้ lilo.conf เอาเอง หรือถ้าอยากใช้ GRUB ก็ไม่มีใครว่า
  3. เวลาติดตั้งเสร็จแล้วจะ reboot มันค้าง เรื่องก็คือว่ามันดันส่ง output ออกไปที่เทอร์มินอล 2 ?? ซึ่งต้องกด Ctrl+Alt+F2 ไปที่ เทอร์มินอลนั้นเพื่อไปกด enter ให้มัน reboot
  4. ใช้ reiserfs ไม่ได้อะ มัน error แต่อีกหลายคนใช้ได้แฮะ ไม่รู้ว่าเป็นที่อะไร ไม่ได้เช็ค HDD กับ partition ว่ามันมี bad sector หรือเปล่าด้วย
ก็ถือว่า ตัวติดตั้งทำงานได้ดีและเนียนมาก


ยังมีอะไรอีกเยอะ... โปรดติดตามตอนต่อไป

Friday, March 03, 2006

iPod Radio Remote Part 2 -- review

เริ่มจาก package ก่อน ... iPod radio remote มาในกล่องสีดำเช่นเคยหุ้ม case พลาสติกหนาแน่น (แกะยากชิบ) และมาพร้อมกับหูฟังแอปเปิลอีกอัน (สรุปรวมตอนนี้มีหูฟังสีขาว 2 อัน หุหุ) พลิกไปพลิกมาดูด้านบนด้านล่าง อืม ไอ้นี่ก็ยัง Made in China แฮะ ด้านหลังเขียนบอกว่า ถ้าจะใช้ FM Radio กับ 5G และ nano นั้นต้องใช้ Firmware เวอร์ชัน 1.1 ขึ้นไป


ทีนี้ก็แกะมันออกมาจากห่อ.. แกะยากจริงๆ นะเนี่ย ด้านบนติดกาวที่แขวนไว้กับฝากล่องด้านบน ด้านล่างกล่องก็ปิดตายและมีเดือยพลาสติกจากเคสมาเสียบอยู่ที่กล่องอีกที หนาแน่นมาก หลังจากพยามแกะมันออกมาโดยที่ให้กล่องบุบสลายน้อยที่สุดแล้วก็แกะตัว remote ออกมาจากแผงอีกที ภายในกล่องก็จะมี
  • Radio Remote x1
  • Apple earphone x1
  • ฟองน้ำสำหรับใส่หูฟัง 2 คู่
  • Manual x1
  • Warranty statement x1 (รับประกัน 1 ปี -- limited warranty)

ตัวรีโมทเป็นแบบที่หนีบเอาไว้ให้หนีบชายเสื้อ (หรือขอบกางเกงก็คงได้มั้ง) มีปุ่มควบคุมอยู่ที่ด้านหน้า เหมือน iPod Shuffle/Apple remote คือ มีที่ปรับเสียง +/- มีปุ่ม << กับ >> และปุ่ม >/|| ด้านบนมีที่เสียบหูฟังและ ปุ่มเลื่อนสำหรับล็อคปุ่มรีโมท ไม่เกี่ยวกับตัว iPod และในทางตรงข้าม การล็อคปุ่มที่ตัว iPod ก็ไม่เกี่ยวกับ remote คือยังสามารถใช้ remote ได้


ด้านหลังของที่หนีบ screen logo ของ Apple เอาไว้สีขาว และมีคำว่า "Designed by Apple in California" แต่ไม่ค่อยชอบที่มันใช้สกรีนเอาเท่าไหร่แฮะเดี๋ยวมันลอก น่าจะใช้ Laser แกะมากกว่า

ด้านล่างของรีโมทเป็นที่สายสำหรับเสียบกับ Dock connector ของตัว iPod ยาวประมาณ 3 ฟุต

ทีนี้ก็ลองเล่นจัดการเสียบสายเข้ากับตัว iPod ที่ได้ฟังมาจาก MacDD radio เห็นบอกว่าเสียบปุ๊ปขึ้นหน้าวิทยุปั๊บ แต่เสียบเข้าไปไม่เห็นขึ้นอะไรเลย -_-' งมอยู่นาน อ่านจากคู่มือ บอกว่าให้เข้าไปที่ Music>Radio
โอเค เข้าไป... เจอแล้ว ^_^ ลองเปิด ก็ขึ้นหน้าวิทยุสวยงามหุหุ

ลองปรับ tune คลื่นวิทยุดู โอ้ ชัดดีใช้ได้ การปรับคลื่นมีทั้งแบบ manual คือกดปุ่มกลางให้มันกลายเป็นหน้าปัดวิทยุแบบโบราณ แล้วก็ไถ Click Wheel ไป แต่วิธีนี้ใช้ไม่ค่อยได้ผลเพราะมันจะไม่รับคลื่นจนกว่าจะหยุดไถ -_-' สรุปคือต้องรู้สถานีก่อน แล้วก็ไถไป ถ้าจะมาไถหาคลื่นฟังคงไม่ไหว อีกวิธีคือให้มัน scan ให้ โดยกดปุ่ม << หรือ >> ค้างประมาณ 1 วินาที มันจะ scan คลื่นให้ ซึ่งเหมาะกับการค้นหาคลื่นสำหรับฟังไปเรื่อยๆ พอได้คลื่นที่ต้องการ ก็กดปุ่มกลางค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจะเป็นการบันทึกคลื่นสถานีไว้ฟังคราวต่อไป (preset) โดยจะมีรูปสามเหลี่ยมดำๆ ขึ้นอยู่ข้างๆ ถ้าต้องการลบออกก็ทำแบบเดิมซ้ำอีก (เหมือนตอนสร้าง On-the-go Playlist) ทีนี้สามารถเลือกสถานีที่ล็อคเอาไว้แล้วโดยทำเหมือนเปลี่ยนเพลงธรรมดาคือกด << หรือ >>

ที่ Melbourne มีระบบ Radio Data System (RDS) อยู่หลายสถานีเหมือนกันดังนั้นพอเข้าไปที่สถานีเหล่านั้นก็จะมีชื่อสถานี หรือชื่อเพลงที่สถานีกำลังเล่นอยู่ขึ้นมาที่ด้านล่างด้วย



นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งรูปแบบคลื่นได้อีกนิดหน่อย คือ เข้าไปที่ Settings>Radio Regions สามารถเลือกโซนได้ ที่มาจากโรงงานจะเป็นของ US (87.5-107.9 มันจะ tune ทีละ .2 MHz) เราก็เปลี่ยนเป็นของ ยุโรป (87.5 - 108) ที่จะ Tune ทีละ .1 MHz นอกจากนี้ยังมีของญี่ปุ่น ซึ่งใช้คลื่น 76 - 89.9MHz อีกด้วย

ส่วนเรื่องการควบคุมการเล่นเพลงทั่วไปก็ไม่มีปัญหา สามารถทำได้เป็นอย่างดีไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแต่ว่าถ้าจะเปลี่ยน Playlist ต้องมาทำที่ตัว iPod เอง นอกจากนี้ตอนที่เสียบรีโมทเข้าไป ก็สามารถเสียบหูฟังได้ทั้งที่ตัว remote และตัว iPod ได้พร้อมกันอีกด้วย (ไม่ต้องซื้อ Spliter) เมื่อก่อนใช้ Spliter สีดำ ตัวละ 50 ซื้อจาก PowerBuy เสียงมาๆ ขาดๆ เพราะมันไม่ค่อยแน่น สรุป... เจ๋ง ^_^ ได้ฟังกับ Boss พร้อมๆ กัน

ข้อสังเกต... ถ้าใช้วิทยุรู้สึกว่ามันจะสูบแบตให้หมดเร็วขึ้นมากเลยอะ -_-'

Wednesday, March 01, 2006

iPod Radio Remote Part 1

เอาอีกแล้ว...

มี iPod แล้วมันก็ต้องเสียเงินเพิ่มจนได้ -_-' จากตอนแรกที่เป็นเครื่องเปล่าๆ ต่อมากลับไปเมืองไทยก็จัดการซื้อซองซิลิโคนใส่ให้ไป 600 บาท เสร็จแล้ว Apple ก็ออก iPod Radio Remote มากระตุ้นกิเลสอีก ใจจริงอยากได้ remote อยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องควัก iPod ออกมาเวลาต้องการเปลี่ยนเพลงหรือเพิ่ม-ลดความดังของเสียง แต่ตอนที่ออก iPod 5G มานั้น remote ที่มีอยู่ในท้องตลาดดันใช้ได้วยกันไม่ได้ ก็เลยไม่ได้ซื้อ ต่อมาพอออก Radio Remote ที่สามารถทำให้สามารถใช้ iPod เป็นวิทยุ FM ได้ด้วยก็น้ำลายไหล อยากได้ขึ้นมาอีก รอดูที่เว็บ Apple อยู่เกือบทุกวันเหมือนกัน ตอนแรกมันขึ้นว่า Shipped within 2-3 weeks เลยคาดว่าของน่าจะยังมาไม่ถึงออสเตรเลีย ก็รอๆ ไปก่อน ทีนี้เมื่อวานนั่งดูเว็บ Apple เช่นเคย ปรากฏว่ากลายเป็น Shipped within 24 hours แล้ว แสดงว่าของน่าจะมาถึงตามร้าน reseller ทั้งหลายแล้วด้วย ก็กำลังกะๆ ว่าจะไปดูซะหน่อย สองจิตสองใจว่าจะซื้อดีหรือเปล่า

วันนี้ Boss ที่รักชวนไปฟัง lecture ที่มหา'ลัย แล้วว่าจะไปเที่ยวต่อที่ Shopping Centre ปรากฏว่าออกจากบ้านสายไปหน่อย เลยเอาหนังสือไปคืนห้องสมุดแล้วไปต่อเลย -_-' (ไม่ได้ update ความรู้มาเป็นเวลานานแล้ว ก็ยังไม่ไปฟังอีก...)

ระหว่างนั่งรถเมล์ไป ก็คุยๆ กันไป บอกว่า
me: วันนี้ไป Apple Centre หน่อยสิ
ฺBoss: เอาสิ... จะไปดูอะไรเหรอ
me: อยากลองไปดู iPod remote หน่อยอะ ว่ามารึยัง
me: ถ้ามาแล้วซื้อเลยดีไหม... พูดเล่นน่า ไม่ซื้อหรอก :P

แล้วมาถึง Chadstone Shopping Centre ก็เดินๆ ดูของไปเรื่อยๆ ก่อน แล้วก็ไปที่ Apple Centre กัน...
ฮ่า มาแล้วจริงด้วย อยู่ในกล่องสีดำเหมือนเดิม หุ้มด้วย case พลาสติกอีกที มีหูฟังแถมให้ด้วย ตัวรีโมตนี่ดูเล็กมากๆ พร้อมกับปุ่ม Control ที่ดูเหมือน iPod Shuffle


ก็ชี้ให้ Boss ดู



Boss: เท่าไหร่ล่ะ
me: 79 เหรียญ
Boss: แล้วมีราคา student รึเปล่า
me: มีบนเว็บ ที่นี่ไม่มี ก็ลดราคาไป 5-6 เหรียญมั้ง
Boss: 10% มันก็ต้อง 8 เหรียญสิ
me: อื้อๆ
Boss: แต่ไม่อยากใช้บัตรเครดิตใช่มั้ย จะเอามั้ย? จะเอาก็เอาเลย
\me อย่าคิดลึกนะ
me: [เฮ้ย จริงเหรอ!!] ... อื้อๆ (หน้าเริ่มบาน หูเริ่มอื้อด้วยความดีใจ)
ก็เลยไปบอกคนขาย... แล้วก็ซื้อมาจนได้ ตอนซื้อนี่เกิดอาการดีใจจนหูอื้อ ฟังอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว เช่นถามว่า
What is your card? --> จะจ่ายด้วยอะไร... งง? เขาเลยถามย้ำอีกทีว่าจะจ่ายเงินสดเหรอ แล้วก็จ่ายด้วย EFTPOS
Are you OK with the bag? (หรือ without bag วะ)--> ถ้าไม่เอาถุง OK มั้ย... กำลังงง เลยตอบ Yes! สุดท้ายต้องบอกว่าขอถุงด้วย เขาก็งงๆ -_-'

เอาเป็นว่าตอนนี้ได้ Radio Remote มาครอบครองโดยการอนุมัติแบบสายฟ้าแลบของ Boss ที่รัก(ขอบคุณคร้าบ... ผมจะเป็นเด็กดีคร้าบ รัก Boss ที่สุดเลยคร้าบ Boss ใจดีกับผมเสมอ ตามใจผมทุกอย่างเลยคร้าบ :D)

To be continued...