Saturday, August 23, 2008

Mix blogging

ดอง blog มาเป็นเวลานานมาก เดี๋ยวขอทดไว้ก่อนว่าช่วงที่ผ่านมาทำไรไว้มั่ง ถ้ามีอารมณ์อยากเขียนก็จะเขียน

เรื่องแรกเกี่ยวกับงานที่ทำที่ Monash เรื่องเกิดจากการที่ต้องไปทำงานเกี่ยวกับ student administration ไม่ได้หรูอะไรมาก จริงๆ คือไปตามเก็บรวบรวมรายงานแล้วก็ส่งให้ผู้สอนเอาไปตรวจให้คะแนนต่อไป แล้วก็รับกลับมาเพื่อส่งคืนให้นักเรียนต่อไป เรื่องคือ ดันไปทำรายงานหายระหว่างการขนส่ง (ไม่รู้ตรงส่วนไหน) เนื่องจากไม่ได้มีขั้นตอนการตรวจสอบที่เป็นขั้นตอน แถมเอกสารกองท่วมโต๊ะอยู่ ดีที่ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นมามาก (แค่ให้นักเรียนส่งรายงานมาใหม่ และไม่มีการปรับโทษคะแนน) เลยต้องพัฒนะระบบการตรวจสอบไว้ก่อนที่มันจะเกิดเรื่องอีก พูดเหมือนหรู จริงๆ คือสร้าง worksheet ไว้บน Excel แค่นั้นแหละ เพื่อเอาไว้ตรวจว่ารับรายงาน ส่งรายงาน ปรับเรื่องสาย หรือมีรายการยืดการส่งรายงาน

ทีนี้เราเห็นว่ามี barcode scanner อยู่ตัวนึงวางอยู่จนฝุ่นจับ แล้วรายงานนักเรียนที่ส่งก็จะต้องมีใบปะหน้าซึ่งมี barcode แทนหมายเลขประจำตัวของนักศึกษาอยู่ด้วย ก็คิดว่ามันควรจะมีโปรแกรมอะไรซักอย่างเพื่อใช้งานตรงนี้ (ไม่งั้นมันจะมี barcode ทำปร๊ะอะไร) ก็เลยไปถามผู้เกี่ยวข้อง ปรากฏว่า มันไม่ได้มีโปรแกรมอะไรเลย!!! เอาไว้ลง ID ของนักเรียนใน Excel (มันมี barcode ไว้ทำปร๊ะจริงๆ ด้วย - -') เอาหละ ด้วยเหตุนี้ เริ่มเห็นว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ไร้ประโยชน์ เริ่มเห็นว่ามันเป็นโอกาสในการพัฒนาอะไรซักอย่างขึ้นมาเพื่อให้สามารถทำงานได้สะดวกขึ้นกว่าการนั่งกด Find แล้วใส่อะไรลงไปใน cell เพื่อเช็ครายงาน นั่นคือ เอา barcode scanner ตัวนี้มาใช้ให้มีประโยชน์มากขึ้น เพื่อการตรวจสอบรายงาน

โดยหลักๆ แล้ว อุปกรณ์ตัวนี้เมื่ออ่าน barcode มันจะเป็นการส่งสัญญาณแป้นพิมพ์เป็นตัวเลขที่อ่านได้จาก barcode แล้วตามด้วยการกด Enter (หรือ carriage return) ตัวอย่างเช่น ถ้าใช้ scanner อ่าน barcode ในโปรแกรม notepad มันก็จะพิมพ์เลขของบาร์โค้ดออกมาแล้วขึ้นบรรทัดใหม่ เราก็ใช้ตรงจุดนี้มาผนวกกับ Excel ด้วย VBA ซะ (ลงทุนซื้อ Excel VBA programming for Dummies มาอ่านเลยนะ) จากที่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับ vba เลย แต่ก็เขียนได้ด้วยความร่วมมือของหนังสือกับ Google ตอนแรกกะให้มันหาแถวของนักเรียนเพื่อใส่ "tick" เข้าไปเฉยๆ พร้อมตัวเลือกอีกสองสามอย่าง ไปๆ มาๆ feature มันเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ต้องตามเก็บ error handling มากขึ้นเรื่อยๆ เขียนแล้วเริ่มสับสนด้วยเหตุที่เป็นการเขียนโปรแกรมแบบไม่มีการวางแผนล่วงหน้า (เด็กๆ ไม่ควรเอาอย่างนะ) เลยเอาแค่ feature พื้นๆ พอ แล้วเอาที่ต้องการเพิ่มไปใส่ไว้ในอีกโปรแกรมแทน (simply the best) ไว้ว่างๆ จะเอา source code มาลง


เรื่องต่อมาคือ เมื่อเร็วๆ นี้ bid ได้จอ 24" ของ LG (L246WH-BN 1920x1200)จาก ebay มาใช้งานกับ Wii laptop ตัวเดิม บน Windows ไม่มีปัญหา ทำ Extended desktop ได้ สะดวกเวลาทำ spreadsheet ยาวๆ ทีนี้มาบน Debian ... มีปัญหา มันถือสา.. เอ้อ ไม่ใช่ละ มีปัญหาเรื่องทำ extended desktop ไม่ได้ มันแสดงผลออกมาที่ความละเอียด 1920x1200 ทั้งสองจอแบบ clone (คือมันล้นจอ laptop แบบทะลักเลย) ดูท่าทางปัญหาอยู่ที่ไดรเวอร์ของอินเทล i810 ที่ไม่สามารถรับความละเอียดของ virtual space มากๆ ได้ (รู้สึกว่าเต็มที่คือ 2048x2048 เอ๊ะหรือมันเป็นที่ chipset 82852/82855 วะ) ลองตั้งแล้ว startx ก็มืดทุกที ท่าทางจอมันจะใหญ่ไป เอาวะ ถ้างั้นก็ใช้จอ 24" อันเดียวก็ได้แล้วก็ปิดจอ laptop ซะด้วยคำสั่ง

xrandr --output LVDS --off


จบ

เรื่องถัดมา วันก่อนสั่งซื้อ CycloDS Evolution การ์ดยอดฮิตที่ให้คุณสามารถ run โปรแกรม homebrew และ rom เกม (backup หรือ เถื่อน :P) บน Nintendo DS ได้ จากเว็บเดิมที่เคยสั่ง Wii Freeloader ปรากฏว่า พอสั่งเสร็จ วันรุ่งขึ้นท่านลดราคาลงมา A$5 ซะงั้น ... แสรดดด เจ็บใจ แต่ซื้อมา run homebrew เท่านั้น (ใครจะเชื่อ) จริงๆ ลองโหลดเกมมาเล่นสองเกม คือ FF IV DS (ที่ออสมันยังไม่ออกนี่หว่า) กับ Lifesigns: Surgical Unit

FF นั้นจบไปแค่ title เดี๋ยวรอสอยของแท้ต้นเดือนหน้า แต่ Lifesigns เล่นจบบทแรกไปแล้วไม่สนุกอย่างที่คิด (ถ้ามันเป้น manga คงตามอ่าน) ไม่ซื้อละ เดี๋ยวลบทิ้ง

โปรแกรม Homebrew ที่น่าสนใจสำหรับ DS ก็ได้แก่ DSOrganize (โปรแกรม organiser/file manager), DSPaint (วาดรูปแบบสีน้ำ หรือสีน้ำมัน สามารถ playback สิ่งที่คุณวาดได้ ดูสนุกดี), moonshell media player (มันแถมมากับการ์ดทุกตัวมั้ง คงไม่ต้องบอก), Tuna-ViDS (โปรแกรมเล่นไฟล์ avi ที่ encoded ด้วย Xvid บน DS) คิดว่ามีประโยชน์กว่า moonshell ที่ไม่ต้องทำไฟล์ให้เป็น DPG แต่สุดท้ายต้อง encode ใหม่อยู่ดีเพราะไฟล์ที่มีอยู่ resolution มันเกิน พอเปิดแล้ว IO error, SvSIP (โปรแกรม VoIP บน DS) เจ๋งมาก ถ้ามี Wi-fi กับ VoIP account ของอะไรซักอันอยู่ (ดูหัวข้อถัดไป) แต่แนะนำให้ซื้อ headset เพิ่ม เพราะเสียงจาก mic ที่ตัว DS มันไม่ดีเอามากๆ ส่วนนี้ขอไม่ลงลิงก์เพราะขี้เกียจเกิน ถ้าอยากรู้ว่าหาจากไหนถาม Google เอาละกัน


อีกเรื่องคือตอนนี้ boss ไปพบ VoIP สุดถูกเข้าจาก Voipdiscount โดยช่วงนี้ถ้า register แล้วยอมจ่าย €10 (ประมาณ A$18) จะสามารถโทรฟรีกลับเมืองไทย (และอีกหลายประเทศ เช่น USA, Australia) ได้ 120 วัน หลังจากนั้นคิดอัตรา ~3 cent euro ต่อนาทีสำหรับประเทศไทยรวมทั้งโทรศัพท์บ้านและมือถือ เลยถือโอกาสทดลองใช้บน Debian ด้วย ตอน register กับเจ้านี้ต้องดาวน์โหลดโปรแกรม (Windows เท่านั้น) มาก่อนถึงจะลงทะเบียนได้ แต่หลังจากนั้นก็แค่ใส่ค่า SIP parameters ต่างๆ ที่มีให้บนเว็บลงไปในโปรแกรม client เช่น Ekiga หรือ SvSIP บน NDSL ก็สามารถโทรเข้าโทรศัพท์บ้านได้ทันที เจ๋ง ตอนใช้ SvSIP ก็กดเลขโทรศัพท์ลงไปได้เลย (เป็น international format เช่น โทรเข้าโทรศัพท์บ้านที่กรุงเทพก็ 6621234567) แต่พอใช้ Ekiga นี่งงอยู่พักนึง สุดท้ายก็ถึงได้รู้ว่า ต้องใส่ @sip.voipdiscount.com ลงไปด้วย โทรบน Debian เสียงก็ยังชัดแจ๋ว

จบดีกว่า ว่าจะสั้นๆ ไหงยาวเป็นโยชน์

No comments: