Monday, April 24, 2006

ผ่าน MCQ แล้ว เย้!!

หลังจากรอผลสอบมา 1 เดือนเต็ม วันนี้ผลสอบส่งมาถึงที่บ้านตอนเกือบบ่าย... (ทีแรกคิดว่ามันจะมาวันพฤหัสหรือศุกร์ที่แล้วซะอีก เล่นเอาได้ลุ้นต่อไปอีก 3 วัน)

พอเปิดซอง... สิ่งแรกที่เห็นคือ กระดาษเหมือนใบสมัครสีฟ้าๆ (ยังไม่ได้คลี่) นึกในใจ เฮ้ย กรูต้องสอบอีกรอบรึเปล่าวะ แล้วก็ค่อยๆ คลี่ออกมา เห็นกระดาษมีข้อความเกี่ยวกับกำหนดการสอบ Clinical ... ก็หมายความว่า.. ว่า.. ว่า... (เดี๋ยวก่อน)
ก็หยิบใบแจ้งผลสอบออกมาดู

PASS


นึกในใจ OH YES!!

แล้วก็เอามานั่ง ที่โซฟาห้องรับแขก เพื่ออภิเชษฐ์ (Appreciate) กับผลสอบของตัวเองอีกพักนึง ... ทั้งหมดได้เกินครึ่ง (ไม่งั้นคงไม่ผ่าน) แต่ ob-gyn ได้น้อยไปหน่อยแฮะ 50% พอดีเลย เกือบ -_-' ได้ psychi 70% แน่ะ นึกๆ ดูก็พอๆ กับสอบ comprehensive ตอนจบปี 6 แต่อันนี้เครียดกว่า

แล้ว boss ก็เรียกเข้าไปในห้อง เพื่อจะกอด :D เราก็ทำเนียนๆ ถามว่า

me: ตกลงวันนี้ออกไปกินข้าวเย็นข้างนอกกันมั้ย (ตอนเช้า boss ชวนทีนึงแล้ว)
boss: เอาสิ

แล้วเราก็ทำหน้าบานยกแขนขึ้น 2 ข้างร้องว่า
me: "ผ่านแล้ว!! เย้"
boss: "เย้.....เอามาดูหน่อย"
boss: "นี่ถ้าไม่เรียกเข้ามาจะบอกมั้ยเนี่ย"
me: "บอกดิ แหม เรื่องงี้ไม่บอกได้ไง"

แล้วก็กอดกันกลมกลิ้งไปกลิ้งมา... :D

เป้าหมายต่อไป Clinical exam คราวนี้ของจริงละ ว่าจะสมัครลงคอร์ส (ราคาถูก) สักคอร์ส ก่อนไปสอบ

จบดีกว่า :D

Wednesday, April 19, 2006

ตามเก็บ KDE

วันนี้ตามเก็บ kdebase ให้หมด 100% เดี๋ยวต่อไปถึงคิว kdelibs (สงสัยจะไม่ไหว เพราะมีปัญหาเรื่องชื่อสี ชื่อเมือง ชื่อประเทศ ฯลฯ ตรึม)

อืม ลองกลับไปดูที่แปลเก่าๆ ไว้ อ่านไม่เข้าใจเยอะเหมือนกัน จนต้องแก้ใหม่ไปหลายตัว นอกจากนี้ก็มีปัญหาเรื่องชื่อโปรแกรมที่ไม่ได้ตกลงกันซักทีว่าจะแปลชื่อดีไหม (บอกตรงๆ ว่าแปลชื่อโปรแกรมแล้วมันแปลกๆ เลยไม่อยากแปล ปล่อยมันไว้งั้น) คือถ้าจะแปลก็ควรจะแปลให้หมดทุกโปรแกรม อาจจะต้องมาตามเก็บอีกรอบ -_-'

เอาเหอะ ยังไงๆ ตอนนี้ก็คิดว่าผ่านมาตรฐานการ release ได้แล้ว
  • kdelibs.po 90% --> เก็บที่เหลือๆ หมดเรียบร้อย 100%
  • desktop_kdelibs.po 100% --> เสร็จแล้ว
  • desktop_l10n.po 100% --> เสร็จแล้วเหมือนกัน
  • และ package ใน kdebase > 75% ตอนนี้เก็บหมดแล้ว 100%
หวังว่าภาษาไทยคงจะได้ออกพร้อมรีลีสถัดไปซะที เฮ้อ

เอ้า สู้ต่อไป...

Thursday, April 13, 2006

PCLinuxOS

ก่อนหน้านี้ใช้ Yoper มานาน แต่ package ที่ใช้อยู่มันเก่ามากแล้ว และไม่มีการ update package สำหรับเวอร์ชันเก่าอีกต่อไปแล้ว แถมไปใส่นู่นนี่เพิ่มจนระบบมัน messy มากแล้วก็รวน ก็เลยตัดสินใจ upgrade เป็น 3.0 beta (Blacksand) แต่เนื่องจากบักมันยังเยอะอยู่ ถึงแม้จะเร็วมาก(สุดๆ เลย) แต่ยังตอบสนองหน้าที่การงานได้ไม่เต็มที่ ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนดิสโทร จนเกิดเรื่อง อย่างที่เขียนไปคราวก่อน -_-' ทีนี้เอาใหม่ กลับไปดูที่ thailinuxcafe.com เห็นว่ามีคนเชียร์ PCLinuxOS เยอะดีโดยเฉพาะเรื่อง Multimedia นี่พร้อมสรรพสำหรับคุณ (โดยคุณ T-X และซีต้า) เลยลองเปลี่ยนมาใช้ไอ้นี่ดูดีกว่า ก่อนหน้านี้เคยใช้ P91 ที่เป็น LiveCD มาแล้ว แต่มีปัญหาเรื่องภาษาไทยนิดหน่อย คราวนี้เลยโหลด P92 มาเผื่อว่าจะดีขึ้น บูตเข้า LiveCD เสร็จก็จัดการลง HDD เลย ง่ายดี (ง่ายเกินไป?) tools สำหรับติดตั้งลงฮาร์ดดิสก์ใช้ได้เลย เข้าใจง่าย ตัวแบ่งพาร์ติชันก็ใช้ง่าย (มาจาก Mandriva ใช่ไหมเนี่ย) และใช้ reiserfs ได้ด้วย แต่มันไม่ค่อยชินปกติ fdisk กะ qtparted ลงเสร็จบูตเข้ามาได้สวยงาม และสามารถตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของเราได้ถูกต้อง เสร็จไป 1 เปลาะ

หลังจากเปลี่ยนมาใช้ได้ซักพัก รู้สึกดีกับดิสโทรนี้มากเหมือนกันแฮะ เสียแต่ว่าไม่มีเอกสารเรื่องการตั้งค่าภาษาไทย แถม locale ของ glibc ก็ดันอยู่แยกกันต้องลงต่างหากอีกที ปล้ำกับเรื่อง locale อยู่นานมากแต่พอลงครบแล้วปรากฏว่าตั้งภาษาไทยง่ายกว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ ใช้เครื่องมือเปลี่ยน locale ชื่อ localedrake (เข้าใจว่าคงมาจาก mandrake) แล้ว KDE อ่านภาษาไทยได้ทันที ตอนนี้กำลังหาอยู่ว่า locale ของ GTK มันไปซ่อนอยู่ที่ไหน -_-' นอกจากนี้มันก็แยก package เป็นโปรแกรมกับ โปรแกรม-devel (ไม่ชอบก็ตรงนี้แหละ มันลำบากเวลาจะคอมไพล์โปรแกรมต้องตามหาชุด -devel มาให้ครบ)

แต่เอาเหอะ หลังจากลงเสร็จแล้วก็ apt-get dist-upgrade เรียบร้อยบวกกับลง libthai, pango-libthai แล้วก็ได้ KDE 3.5.2 มาใช้ ลองใช้ดูค่อนข้างประทับใจ ยกเว้นว่า Konqueror กับพวก editor ที่อยู่ใน kdebase เกิดอาการแข็งตัว (freeze) กระจาย ขนาดจะเข้า thailinuxcafe webboard ยังแข็งเลย... (ไม่รู้ว่าบักที่ไหน คาดว่าจะเป็นที่การคอมไพล์ package ของ PCLOS เองมั้ง ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นแบบนี้บ้างหรือเปล่า) เอาละ ก็เลยต้องกลับมาใช้หมาย่าง(Firefox -- แต่จริงๆ มันเป็นแพนดาแดงนะ)ซึ่งทาง PCLOS เตรียม 1.5.0.1 มาให้แต่ก็แน่นอนว่ามันไม่สามารถตัดคำไทยแบบ out of the box เหมือน Ubuntu (อิจฉาเล็กๆ) ก็เลยต้อง build ใหม่เองรวมกับ patch libthai ใช้เวลา 45 นาทีก็ได้ FF 1.5.0.1 ตัดคำไทยด้วย libthai ออกมาใช้ (ยังคงมีบักแบบเดิมนะครับ เคอร์เซอร์ใน text edit area กระโดด แล้วก็มีตัวอักษรแปลกๆ เหมือนเป็น newline character โผล่ออกมา) แล้วก็ทำการปรับแต่ง script สำหรับเรียก firefox อีกนิดหน่อยได้แก่ path สำหรับเรียกโปรแกรมและปลักอินก็เรียบร้อย (ขี้เกียจลงปลักอินใหม่ ของ PCLOS ให้มาหมดแล้วดีจัง :D)

เนื่องจาก PCLOS ท่านสร้าง Kmenu ของท่านเอง ทำให้ผมหาอะไรไม่ค่อยจะเจอว่ามันเอาไปเก็บไว้ที่ไหนฟระ กว่าจะหาเจอนี่แทบแย่ ไล่ดูมันทีละเมนู ไอ้พวกโปรแกรมที่มันพื้นฐานก็หาเจอหรอก แต่โปรแกรมเฉพาะบางอย่างนี่ดันเอาไปเก็บไว้ผิดที่ ตัวอย่างเช่น KBabel ที่เอาไว้แปลไฟล์ .po ซึ่งปกติ KDE จะรวมมาไว้ที่ kdevelop (เพราะมันเป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชัน) แต่พี่ท่านดันเอาไปไว้ที่ Office>Accessories กรูละงง หรือพวกโปรแกรมกราฟิก ท่านเอาไปรวมกับ Multimedia เล่นเอาหาไม่เจอเลย หรือ Super Karamba ท่านเอาไปไว้ที่ Monitor คือก็เข่้าใจว่า theme ส่วนใหญ่ที่มีคนเขียนขึ้นมาเนี่ย มันเอาไว้ monitor ระบบ แต่ KDE ก็จัดมันไว้ที่ kdeutils สรุปว่า หาไม่เจอ ก็ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยพักใหญ่เหมือนกัน อีกเรื่องคือ เดี๋ยวนี้เขาไม่ build kdebase โดย enable samba กันแล้วเหรอ? ตอนยังใช้ Yoper มัน Access เครื่องวินโดวส์ในบ้านโดยผ่าน Konqueror ได้เลย อะ เดี๋ยวนี้ต้องเข้าผ่าน smb4k เห็นมาหลายดิสโทรแล้ว แล้วก็ browse LAN ไม่ได้เพราะไม่ได้เปิด lisa

แต่ส่วนที่ชอบนี่มีเยอะ
  • สวยดี มี kwin, style builtin มาให้เลือกแต่งเยอะ มีกระทั่ง Baghira
  • ให้ plugins ของ Firefox มาพร้อม ไม่ต้องไปตามโหลดมาใส่เอง (ไม่รู้จะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์หรือเปล่า)
  • Multimedia พร้อม -- เล่น MP3, Ogg, m4a (AAC) ที่แปลงมาจาก iTunes, DVD, VCD ฯลฯ ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปตามหาตัว codec มาลงเองเหมือนบางดิสโทร
  • upgrade package ง่ายผ่าน apt (อันนี้ไม่มีอะไรใหม่ หลายดิสโทรก็ใช้)
  • ชอบ YaKuake terminal emulator จัง มันเปิดหน้า terminal เหมือนเปิด console ในเกมส์พวก Half-Life หรือ Quake อะ เปิดหน้าลงมาหรือหดกลับขึ้นไปด้วย F12
  • เข้าไปที่ partition ของวินโดวส์ได้โดยเป็น user ธรรมดา (แต่กลุ่ม root) แล้วก็อ่านภาษาไทยออกด้วย T^T ดีจัง (ตอนใช้ Yoper ต้องเป็น root ไม่งั้นเข้าไม่ได้)
  • เปลี่ยน bootsplash ได้ง่ายนิดเดียว
  • ชอบ KDE splash theme ที่ให้มาจัง เป็นรูปตรวจสอบลายนิ้วมืออะ ชื่อ FingerPrint

splash

  • พอใส่ libthai เข้าไป เกือบทุกโปรแกรมใน KDE ตัดคำไทยได้หมด (ขอบคุณคุณเทพ กับคุณ ott ด้วยที่ช่วยผลักดันภาษาไทยเข้า Qt :D) ยกเว้น scribus ไม่รู้มันใช้อะไรตัดคำ แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ Qt
  • apps ตรึม แทบไม่ต้องไปหาอะไรมาเพิ่ม (นอกจาก upgrade)
จบแล้ว คราวหน้ามา hack หน้า about: กับ about/credits dialog ของ FF กันดีกว่า ฮี่ๆ

Tuesday, April 11, 2006

Back on track, Woo Hoo!!

ได้เวลากลับมาแปล KDE ต่อแล้ว... หลังจากหยุดไปพักนึง อ่านหนังสือเตรียมสอบ (ซึ่งตอนนี้ก็ยังเสียวๆ สันหลังอยู่เหมือนกัน แต่ดีกว่าเดิมหน่อย)

คราวนี้จะเอาให้ภาษาไทย ออกไปพร้อมกับ release ถัดไปให้ได้

เป้าหมาย...

  • kdelibs.po >= 90% -- เกือบแล้ว อีก 5%
  • desktop_kdelibs.po 100% -- เรียบร้อย
  • desktop_l10n.po 100% -- เรียบร้อย
  • kdebase 75% -- เกินไปนานแล้ว
ดูจากที่นี่
สู้ว้อย...

Saturday, April 01, 2006

System recovery

จากคราวก่อนที่สูญเสียระบบไปด้วยความประมาท... คราวนี้ก็มาถึงเวลาต้องกู้ระบบคืน เพราะไม่งั้นไม่มีเครื่องใช้

เริ่มจากการบูตแผ่น Recovery CD ก่อนซึ่ง แน่นอนว่ามันยังทำอะไรไม่ได้ ก็ออกมาจากโปรแกรม recovery แล้วจัดการ fdisk ลบ Linux partitions ออกแล้วสร้าง partition หลักขึ้นมาบน HDD ก่อน เอาละ เนื่องจากว่าผมเพิ่งเคยใช้แผ่นนี้เป็นครั้งแรก ก็เลยไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรให้บ้าง พอสร้าง partition เสร็จก็จัดการบูตใหม่แล้วเลือกใช้ตัวเลือกในการติดตั้งวินโดวส์เข้าไปใหม่ ปรากฏว่า Disk error เพราะยังไม่ได้ format -_-'

เอาใหม่ ทีนี้ format c: แล้วก็นั่งรอไปจนเสร็จ ตั้งชื่อ Volume label ว่า WINXP แล้วบูตกลับเข้าไปในโปรแกรมสำหรับกู้ระบบอีกครั้ง ทีนี้ผ่านไปได้ถึงขั้นตอนจะก็อปไฟล์ลงฮาร์ดดิสก์ แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดมากมาย แล้วก็หลุดออกมาที่ prompt แถม error message ก็ไม่สื่ออะไรเลย ตอนนี้เหงื่อโง่ออกมาอีกครั้ง... o_O" (เอาล่ะสิกรู ทำไมฟระ) นั่งแกะไปแกะมา อ่าน batch file ดู error message จนรู้สึกได้อะไรเลาๆ คล้ายๆ ว่ามันเกิดข้อผิดพลาดตอนใช้คำสั่ง label หรือไงนี่แหละ ดูตามไปตามมา สุดท้ายก็มารู้ว่า ถ้าตั้งชื่อ Volume label เป็นอย่างอื่นนอกจาก HDD มันจะ error

ทีนี้เปลี่ยนชื่อ Volume label กลับไปเป็น HDD ทุกอย่างก็สามารถทำงานได้ตามปกติ รอจนมันก็อปไฟล์เสร็จแล้วบูตใหม่ ทีนี้ ติดกลับมาที่ GRUB prompt -_-' (อะไรกันนักกันหนาวะ) เอ้า บูตกลับเข้า CD อีกทีแล้วสั่ง fdisk /mbr ทีนี้ก็สามารถบูตกลับเข้าฮาร์ดดิสก์ได้ตามปกติ เร็วดีแฮะ 15 นาทีเอง นึกในใจ แต่ปรากฏว่า จริงๆ แล้วเป็นแค่การก็อปไฟล์สำหรับ install winXP เสร็จเท่านั้น ยังไม่ได้ติดตั้ง สรุป... ต้องรอมัน install อีกกว่าครึ่งชั่วโมง (เป็นประสบการณ์แปลกใหม่เลยนะเนี่ย ผมไม่เคยลง WinXP เองเลย เชื่อมะ :D)

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ทีนี้บูตเข้า WinXP pro ได้สำเร็จหลังจากตัว installer มันรีบูตให้อยู่หลายครั้งแต่มันปรับหน้าจอให้ที่ 800 x 600/64k สี, ยังไม่มีเสียง, ไม่มีอะไรเลย มาแบบซิงๆ และยังไม่ได้ Activate มีหน้าจอขึ้นมาเตือน แล้วลอง activate ก็ไม่ได้วุ้ย ขึ้นว่าใส่ serial ผิดอยู่นั่นแหละ หันไปดูที่คู่มือ อ้อมีตัว activate อยู่อีกแผ่นนี่เอง เป็นแผ่น driver ก็จัดการลงไดรเวอร์แล้วก็ activate ไป เฮ้อ... เสร็จไปหนึ่งขั้น

ขั้นต่อมา WinXP ตัวที่ให้มามันเป็นเวอร์ชัน 2002 + SP1 เราก็ต้องมาลง SP2 เอง แล้วก็คุ้ยแผ่น Nod32 antivirus ที่เราซื้อมาจากเมืองไทยแล้วก็ update ฟรี 1 ปี ราคา 249 บาท มาติดตั้งแล้วก็อัพเดต

จากนั้นก็จัดการกับ Windows update เพื่ออุดรูรั่ว รวมๆ ดาวน์โหลดมา update ทั้งหมดประมาณกว่า 200 - 300 เม็ก

แล้วก็ดาวน์โหลดและลงโปรแกรมที่สำคัญๆ สำหรับให้มีใช้งานก่อนก็คือ OO.o กับ Thai Community Firefox 1.5.0.1.1, Flashget เรื่องอื่นๆ ไว้ว่ากันทีหลัง ที่ต้องดาวน์โหลดใหม่เพราะว่า ที่ดาวน์โหลดไว้มันหายไปกับ ArkLinux หมดแล้ว


สุดท้าย มีเครื่องใช้แก้ขัดจนได้ หุหุ รางวัลสำหรับการอ่านข้อสอบจบ 1 ชุดคือการได้ล้างเครื่องลง WinXP ใหม่นี่เอง T-T (ผิด concept ไปหน่อย)

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
  • ก่อนจะทำอะไรกับระบบ ไม่ว่าจะลง Linux หรือบางทีแค่ลง driver ก็ควรจะ backup ระบบและข้อมูลไว้ก่อน
  • จากการลง Windows ใหม่ ทำให้ผมรู้สึกว่า ลง Linux นี่มันง่ายกว่า 20-30 เท่าเลยแฮะ เพราะ
    • ที่ผ่านมาลงแต่ linux (มี TLE, Yoper แล้วก็ Ark ตัวแสบนี่แหละ)ซึ่งลงเสร็จบูตเสร็จปรับแต่งหน้าตาอีกนิดหน่อย มี application พร้อมใช้งานเป็นร้อยตัว
    • ไม่ต้อง ดาวน์โหลด security patch เยอะขนาดนี้ (นอกจากคุณจะ apt-get upgrade หรือ smart upgrade)
    • ไม่ต้องลง antivirus ไม่ต้องตาม update definition
  • แผ่น recovery นี่มันห่วยจัง แค่ตั้งเงื่อนไข partition ไม่ตรงก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นคนที่ไม่มีความรู้ ส่งกลับ manufacturer กินเงินค่าซ่อมสบาย
  • อินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ
  • ให้อ่าน และคิดก่อนที่จะทำ ถ้าไม่แน่ใจให้ถอยสถานเดียว -_-'
จบ

ปล. การเสียระบบไปครั้งนี้นี่ ข้อดีอีกข้อคือ ดูเหมือนทำให้ผมตั้งใจอ่านหนังสือมากขึ้น เพราะไม่มีของที่ชอบเล่น (linux) มาอยู่ตรงหน้าแฮะ -_-' อืม อาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้